วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธีการเลี้ยงแมวสีสวาด


  แมวสีสวาด
 
ชื่อทั่วไป
แมวโคราช หรือ แมวสีสวาด         ที่คนไทยเรียกว่า แมวมาเสศ หรือ แมวดอกเลา ที่เรียกว่าแมวโคราชเพราะเรียก เรียกตามถิ่นกำเนิด คือพบที่อำเภอ พิมาย จังหวัด นครราชสีมาลักษณะของแมวสีวาด        เป็นแมวขนาดกลางขนสั้น สีเหมือนกับลูกสวาด เรียกว่า Silver Blue ตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้ามีสีอื่นปนจะไม่ถือว่าเป็นแมวพันธุ์แท้ ศีรษะเมื่อมองจากด้านหน้าจะเป็น รูปหัวใจ หน้าผากใหญ่ และแบน คางและกรามแจ็งแรง หูใหญ่ตั้งเด่น นัยน์ตาใหญ่สีเขียวสดใสเป็น สีเหลืองอำพัน เมื่อโตเต็มที่
ความเชื่อที่เกี่ยวกับแมวสีวาด         ในสมัยโบราณ มีความเชื่อว่า แมวโคราช หรือ แมวสีสวาด เป็นแมวที่นำโชค หรือเป็นแมวแห่งโชคลาภ จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิ์ เป็นมงคลแก่ผู้เลี้ยง สีขนคล้ายสีเมฆ สีตาเป็นสีเขียวดังสีเขียวของต้นข้าวในท้องนา ดังนั้นจึงถูกนำไปใช้ใน พิธีแห่นางแมว ขอฝนในสมัยโบราณวิธีง่าย ๆ 
เลี้ยงแมวสีสวาดให้อายุยืน
     - แมวสีสวาด มีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ใกล้เคียงกับสุนัข
     -ใช้เวลาการตั้งท้องประมาณ 63 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-7 ตัว แต่ส่วนมากจะคลอดลูกประมาณ 4 ตัว
     -สำหรับวิธีการเลี้ยงดูหากเลี้ยงที่บ้านปกติควรดูแลเรื่องการให้ยาถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษโดยยาถ่ายพยาธิควรให้เป็นระยะ ๆ ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีน 3 ชนิด ปีละ 1 ครั้ง ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันหัดแมว และวัคซีนป้องกันลิวคีเมียร์ ซึ่งลิวคีเมียร์เป็นโรคแมว ลักษณะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง หากเป็นแล้วมักไม่มียารักษา จึงต้องฉีดยาป้องกันไว้ก่อน แค่นี้แมวสีสวาดก็จะมีอายุยืนยาว
ด้วยความน่ารัก ขี้อ้อน และแสนซนของเจ้าแมวเหมียว ทำให้ใครหลายคนเลี้ยงไว้ในบ้านเสมือนเป็นสมาชิกหนึ่งในครอบครัว 

แต่ใครจะรู้ว่า แมวพันธุ์ไทยแท้ในปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 4 สายพันธุ์เท่านั้น คือ วิเชียรมาศ ศุภลักษณ์ โกนจา และสีสวาด 
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์และถ่ายทอดภูมิปัญญาต่างๆ และเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการประกอบอาชีพ โดยให้ความรู้แก่เด็กเยาวชนและประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องแมวไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม.) ได้จัดเสวนา "แมวไทย อีกสัญลักษณ์หนึ่งของชาติไทย"

ภายในงานมีการนำแมวไทยโบราณที่ปัจจุบันเหลือแค่ 4 สายพันธุ์ คือ วิเชียรมาศ ศุภลักษณ์ โกนจา และแมวสีสวาดหรือแมวโคราช ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ปี 2554 และรางวัลสายพันธุ์ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-ละตินอเมริกา ราคาค่าตัวสูงถึง 250,000 บาท นำมาแสดงให้ผู้ร่วมงานได้ชม 

ปรีชา พุคคะบุตร เจ้าของ "บ้านแมวไทย" ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เล่าถึงประวัติความเป็นมาของแมวไทยโบราณพันธุ์แท้ว่า ตามหลักฐานที่ปรากฏในสมุดข่อยโบราณ กล่าวไว้ว่าแมวไทยมีทั้งหมด 23 ชนิด เป็นแมวมงคล 17 ชนิด และแมวร้ายให้โทษ 6 ชนิด แมวมงคล 17 ชนิด ประกอบด้วย นิลรัตน์ วิลาศ ศุภลักษณ์ เก้าแต้ม มาเลศ แชมเศวต รัตนกัมพล วิเชียรมาศ นิลจักร มุลิลา กรอบแว่นหรืออานม้า ปัดเศวตหรือปัดตลอด กระจอก สิงหเสพย์ การเวก จตุบท และโกนจา ส่วนแมวร้ายให้โทษ 6 ชนิด ได้แก่ ทุพพลเพศ พรรณพยัคฆ์หรือลายเสือ ปีศาจ หิณโทษ กอบเพลิง และเหน็บเสนียด 



"ประเทศไทยไม่ได้มีการอนุรักษ์แมวไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันนี้แมวมงคลสูญพันธุ์ไปแล้วถึง 13 ชนิด หลงเหลือให้คนรุ่นหลังได้ชมเพียง 4 ชนิดเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่พันธุ์แมวไทยแท้เหลือน้อยลงทุกวัน เพราะคนไทยมองข้ามแมวไทยหันไปเลี้ยงแมวสายพันธุ์ของต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่สถานการณ์แมวไทยน่าเป็นห่วงเพราะเด็กและแม้แต่ผู้สูงอายุบางคนยังไม่รู้จักแมวไทย ทั้งนี้ แมวไทยสามารถเพาะพันธุ์จำหน่ายทำเป็นอาชีพได้ เพราะตลาดต่างชาติให้ความสนใจ ตอนนี้ตลาดในญี่ปุ่นราคาซื้อขายตัวหนึ่งถึง 200,000 แสนบาท" ปรีชากล่าว

อิสริย รัตนะวีระวงศ์ เจ้าของฟาร์มศรี-สวัสดี ซึ่งเป็นผู้ที่เพาะพันธุ์แมวไทยสีสวาดหรือแมวโคราช และเป็นเจ้าของ "บุญมาก" แมวพันธุ์สีสวาดราคา 250,000 บาท ให้เหตุผลในการเลี้ยงแมวโคราชว่า แมวพันธุ์นี้เป็นสมบัติของชาติซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่และนับวันยิ่งหายากจึงจำเป็นต้องอนุรักษ์ให้เป็นมรดกของชาติ ปัจจุบันตลาดต่างประเทศนิยมแมวสีสวาดและแมววิเชียรมาศ ซึ่งได้รับการสั่งซื้อทั้งจากเอสโตเนีย เยอรมนี ญี่ปุ่น ส่วนสาเหตุที่ราคาแพงนั้นเนื่องจากเลี้ยงด้วยเนื้อวัวสด เลี้ยงในห้องแอร์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ได้โครงสร้างขนาดใหญ่พร้อมฝังไมโครชิปและทำวัคซีนให้ครบมีใบรับรองหรือเพ็ดดีกรี ก่อนส่งมอบให้เจ้าของที่อายุ 4 เดือน

"การดูแลบุญมากจะต้องเลี้ยงในห้องแอร์ตลอด 24 ชั่วโมง จะทำให้ขนหนานุ่มมากกว่าปกติ และเลี้ยงด้วยเนื้อวัวดิบจะทำให้โครงสร้างของแมวใหญ่และกล้ามเนื้อสวยงาม และจะเลี้ยงด้วยระบบปิด ปล่อยออกมาวิ่งเล่นไม่ได้เลย เพราะถ้าอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแล้วแมวจะเครียด ทำให้ภูมิคุ้มกันน้อยลงได้ และจะมีการถ่ายพยาธิรวมถึงการให้อาหารจะให้อาหารเกรดพรีเมียมจากต่างประเทศ" อิสริยเล่า 

ส่วนการอาบน้ำนั้น อิสริยอธิบายว่า จะใช้แชมพูแบรนด์เนมจากต่างประเทศโดยอาบน้ำสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าวันใกล้ประกวดจะอาบน้ำ 3 วันต่อครั้ง และจะอาบน้ำอุ่นและจะมีครีมหมักขจัดไขมัน แชมพูล้างคราบไขมัน แชมพูที่จะทำให้ขนเงาเป็นประกาย และครีมนวดต้องใช้อาบน้ำ 4-7 น้ำต่อครั้ง 

"สถานการณ์ปัจจุบันแมวไทยสายพันธุ์แท้เหลือน้อย แต่ไม่สูญพันธุ์ เพราะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญและความสนใจมากขึ้นและด้วยราคาค่าตัวที่ทุกคนสามารถเลี้ยงและครอบครอง เพราะในอนาคตมีโอกาสต่อยอดทางธุรกิจได้ 

"การดูแลค่อนข้างง่าย ไม่ใช้พื้นที่เลี้ยงเยอะเหมือนสุนัขและมีช่องว่างระหว่างคนพอสมควร และที่สำคัญคือแมวโคราชและแมววิเชียรมาศเป็นแมวที่ต่างประเทศให้การยอมรับ เพราะเป็นแมวในระดับท็อปชั้นนำของโลกที่มีมูลค่าสูง ลักษณะเด่นที่สุดของแมวไทยคือ ฉลาดที่สุดในโลก และค่อนข้างรักอิสระ" อิสริยอธิบาย

อิสริยยังบอกถึงราคาค่าตัวแมวไทยในปัจจุบันว่า ยังไม่สูงมากนักจะอยู่ที่ราคา 5,000-6,000 บาท แต่ถ้าแมวที่บ้านจะขายในราคา 20,000 บาท ซึ่งมีความต่างในการเลี้ยงคือ รับประกันเรื่องสุขภาพ สุขภาพจิตดีไม่มีปัญหา และจะมีการเปลี่ยนแมวใหม่ให้ทันที หรือคืนเงินให้หากมีปัญหา และจะฝังไมโครชิปที่ตัวและมีสัญญาซื้อขายเป็นลายลักษณ์อักษร ฉีดวัคซีนครบและมีหมอตรวจสุขภาพ ซึ่งจะเป็นมาตรฐานเดียวกันกับต่างประเทศ ส่วนราคาที่ส่งออกนั้นจะอยู่ที่ 2,000-2,500 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 100,000-125,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องบิน สำหรับแมวอายุ 4 เดือน 

การเลี้ยงแมวไทยนับเป็นการเสริมสร้างรายได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการอนุรักษ์แมวไทยเพื่อไม่ให้สมบัติของชาติต้องสูญพันธุ์หายสาบสูญไปกับกาลเวลา
วิฬาร์เลศพื้น    พรรณราย
ขนดังดอกเลาลาย    เรียบร้อย
โคนขนเมฆมอปลาย    ปลอมเศวต
ตาดั่งน้ำค้างย้อย    หยาดต้องบุษบง
               กลอนบทนี้ปรากฏอยู่ในตำราสมุดข่อยที่บรรยายลักษณะอันงดงามของแมวสีสวาดไทย ซึ่งมีการบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยอยุธยาหรือเมื่อประมาณ 300-400 ปีมาแล้ว จึงถือเป็นลายลักษณ์อักษร  ที่เป็นหลักฐานว่า “แมวสีสวาด” เป็นสมบัติอันล้ำค่าของไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ และ กำลังจะมีการจดลิขสิทธิ์เป็นสัตว์ประจำชาติไทยในวันที่ 12 มีนาคม 2553 ที่จะถึงนี้
   
               ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับว่าที่สัตว์ประจำชาติไทย ตัวใหม่นี้กันก่อน โดย ชูชัย วิเศษจินดาวัฒน์ ประธาน ชมรมอนุรักษ์แมวโคราชเมืองพิมาย ให้ความรู้ว่า แมวสีสวาด (Silver blue) เป็นแมวขนาดกลางมีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ แมวโคราช แมวดอกเลา ซึ่งเป็นแมวพื้นเมืองที่พบในอำเภอพิมาย  จังหวัดนครราชสีมา บางครั้งเราจึงเรียกกันว่า แมวโคราช โดยบันทึกในสมุดข่อยที่เขียนขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 1893-2310 ปรากฏว่า แมวที่ให้ โชคลาภดี 17 ตัว ของประเทศไทย จะรวมถึงแมว สีสวาดหรือแมวโคราชนี้ด้วย และปัจจุบันสมุดข่อยนี้ถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ    

   
               ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อ ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5 โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น แต่คนไทยมักจะ เรียกแมวโคราชอีกชื่อว่า แมวสีสวาด เพราะสีสวาด แปลว่า สีเทา ซึ่งขนแมวสีสวาดในไทยมี 3 โทนสี ได้แก่ เทาเงิน เทาเงินออกดำ และเทาเงินออกแดง
   
               ขณะที่คนไทยบางกลุ่มมักจะเรียกแมวสีสวาดหรือแมวโคราชว่า “แมวสีดอกเลา” เนื่องจากแมวเพศผู้จะมีสีขนเหมือนดอกเลา และจะต้องมีขนเรียบ ที่โคนขนจะมีสีขุ่น ๆ เทา ส่วนปลายมีสีเงินอ่อน ๆ เป็นประกายคล้ายหยดน้ำค้างบนใบบัว ตามคำกลอนข้างต้นที่ปรากฏอยู่ในสมุดข่อย ถือเป็นโชคดีของเรา ที่เมื่อสมัยอยุธยามีคนเขียนบรรยายเป็นกลอนเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้อ่านและทราบถึงลักษณะพันธุ์ที่แท้จริงของแมวสีสวาด
   
               โดยลักษณะของแมวสีสวาดพันธุ์แท้ต้องมีขนสั้น สีสวาดสีเดียวตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้ามีสีอื่นปนจะไม่ถือว่าเป็นแมวพันธุ์แท้ และจากการสำรวจพบว่าแมวสีสวาดจังหวัดอื่น ๆ จะไม่มีสีดอก เลานอกจากแมวโคราชเท่านั้นที่มี ส่วนศีรษะเมื่อมองจากด้านหน้าจะเป็นเหมือนรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่ และแบน คางและกรามแข็งแรง โดยเฉพาะแมวตัวผู้หน้าผากจะมีรอยหยักเป็นรูปหัวใจเด่นชัดมาก ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากเป็นสีเงิน หรือม่วงอ่อน โคนหูใหญ่ตั้งเด่นและปลายมน นัยน์ตา กลมใหญ่สีเขียวสดใส แต่เป็นสีเหลืองอำพันเมื่อตัวโตเต็มที่ หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และ ค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียว  ได้สัดส่วนกับลำตัวที่ยาวเป็นสง่า
   
               ลักษณะที่เป็นข้อด้อย คือ ขนยาวเกินไปและมีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสีหรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นขอด หงิกงอมากเกินไปและมีความดุ เลี้ยงลูกไม่ดี เพราะแมวสีสวาดพันธุ์แท้ต้องมีนิสัยขี้เล่น รักเจ้าของ ขี้ประจบเอาใจ โดยใน สมัยโบราณมีความเชื่อว่าแมวโคราชหรือแมวสีสวาดเป็นแมวที่นำโชค เป็นมงคลแก่ผู้เลี้ยง จึงถูกนำไปใช้ในพิธีแห่นางแมวขอฝน เนื่องจากลักษณะตาแมวที่เป็นสีเขียวอัมรินทร์คล้ายเมล็ดข้าวเขียวขจี จึงเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของธัญญา หาร ส่วนขนแมวที่เป็นสีเทาคล้ายปุยเมฆ ซึ่งในพิธีจะมีการแห่นางแมวและนำน้ำมาราดที่ตัวแมวให้น้ำหยดจากขนลงมา เหมือนฝนตกลงมาจากเมฆ แต่ในปัจจุบันไม่มีแล้วเนื่องจากมองกันว่าเป็นการทารุณสัตว์
   
               อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแมวสีสวาดในประเทศไทย เหลืออยู่ไม่ถึง 2,000 ตัวแล้ว เนื่องจากเดิมทีในอดีตแมว  สีสวาดเป็นแมวพื้นบ้านและพบเห็นกันได้ง่ายจึงไม่มีใครสนใจที่จะเลี้ยงดูหรืออนุรักษ์พันธุ์ไว้อย่างจริงจัง ทำให้จำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว  ดังนั้นทางกลุ่มคนที่เห็นถึงความสำคัญของแมวชนิดนี้ ซึ่งถือเป็นแมวพื้นบ้านและมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่อำเภอพิมาย เราจึงมีการรวมกลุ่มกันเพื่ออนุรักษ์แมวสีสวาดไว้ เพราะถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมาด้วย
   
               ทั้งนี้ที่ผ่านมามีชาวต่างชาติโซนยุโรปให้ความสนใจในการหาซื้อแมวสีสวาดไปเลี้ยงเพื่อพัฒนาพันธุ์ให้ได้ตรงตามบันทึกในใบข่อย ไม่ว่า จะเป็นชาวฝรั่งเศส อเมริกัน ฯลฯ ต่างพากันบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาขอข้อมูลและซื้อแมวสีสวาดไปเลี้ยงเนื่องจากเป็นแมวที่มีลักษณะสง่างาม มีความเชื่องและรักเจ้าของ จึงอยากให้เราคนไทยเห็นคุณค่าของสมบัติที่เรามี รวมทั้งอนุรักษ์ไว้ก่อนที่จะถูกต่างชาติยื้อแย่งไปและเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีการจดลิขสิทธิ์แมวสีสวาดเป็นสัตว์ประจำชาติไทย หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนในวันที่ 12 มีนาคม 2553 นี้จะมีพิธีจดลิขสิทธิ์แมวไทยสายพันธุ์สีสวาด หรือแมวโคราช เป็นตัวแรกของประเทศ ไทยและของโลก ที่โรงเรียนพิมายวิทยา อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยเชิญกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผู้รับจด และกรมปศุสัตว์  จะเป็นผู้ระบุคุณสมบัติแมว สีสวาดตามสมุดข่อย
   
               ร่วมกันหวงแหนและอนุรักษ์แมวพันธุ์ไทยซึ่งเป็นสมบัติของชาติตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ชื่นชม อย่าให้ใครมาว่าเราได้ว่า ไม่รักษาสมบัติอันมีค่าไว้ ปล่อยให้ต่างชาติแย่งชิงไป.
วิธีง่าย ๆ เลี้ยงแมวสีสวาดให้อายุยืน
   
               ประธานชมรมอนุรักษ์แมวโคราช เมืองพิมาย ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจจะเลี้ยงแมวสีสวาด ว่า แมวสีสวาด มีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ใกล้เคียงกับสุนัข และใช้เวลาการตั้งท้องประมาณ 63 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-7 ตัว แต่ส่วนมากจะคลอดลูกประมาณ 4 ตัว สำหรับวิธีการเลี้ยงดูหากเลี้ยงที่บ้านปกติควรดูแลเรื่องการให้ยาถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ
   
               โดยยาถ่ายพยาธิควรให้เป็นระยะ ๆ ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีน 3 ชนิด ปีละ 1 ครั้ง ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันหัดแมว และวัคซีนป้องกันลิวคีเมียร์ ซึ่งลิวคีเมียร์เป็นโรคแมว ลักษณะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง หากเป็นแล้วมักไม่มียารักษา จึงต้องฉีดยาป้องกันไว้ก่อน แค่นี้แมวสีสวาดก็จะมีอายุยืนยาวอยู่กับเราได้นาน ๆ



1 ความคิดเห็น:

  1. นี่คือแมวนำโชคของคนไทยเลยนะ แมวสีสวาดเป็นแมวไทยที่น่าเลี้ยง หวังว่าคนไทยจะนิยมเลี้ยงแมวสายพันธุ์ไทยกันบ้าง

    ตอบลบ